นพ. วสุ เตชะวัฒนากุล

การจมน้ำเป็นสาเหตุลำดับที่ 3 ของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุของทั่วทั้งโลก

ในประเทศสหรัฐอเมริกา การจมน้ำเป็นสาเหตุลำดับที่ 2 ของการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บในเด็กอายุ 1 ถึง 14 ปี และแม้ผู้บาดเจ็บจากการจมน้ำจะไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ก็อาจนำมาสู่ภาวะการบาดเจ็บเสียหายของสมองอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดความพิการ และทุพลภาพตามมาได้

ภาวะหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตจากการจมน้ำ เกิดจากภาวะการขาดออกซิเจนอย่างรุนแรงต่ออวัยวะสำคัญของร่างกายคือ สมองและหัวใจ การช่วยเหลือผู้ป่วยจมน้ำจึงเน้นที่การช่วยหายใจผู้บาดเจ็บเป็นสำคัญ

 

ขั้นตอนการช่วยเหลือผู้ป่วยจมน้ำที่สงสัยภาวะหัวใจหยุดเต้น ได้แก่

1. เมื่อพบผู้บาดเจ็บจากการจมน้ำ ให้เริ่มร้องขอความช่วยเหลือ เช่น จากไลฟ์การ์ดใกล้เคียง หรือจากโทรศัพท์การแพทย์ฉุกเฉิน เบอร์ 1669 เป็นต้น) เมื่อสามารถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บขึ้นจากน้ำได้แล้ว จึงเริ่มทำการช่วยเหลือต่อ

2. ตรวจดูการหายใจ หากผู้ป่วยไม่หายใจ ให้เปิดทางเดินหายใจโดยการแหงนหน้า และเชยคางขึ้น (วิธีนี้จะทำเมื่อผู้จมน้ำไม่มีร่องรอยบาดแผลการบาดเจ็บของศีรษะและคอ) แล้วช่วยหายใจด้วยการเป่าปากช่วยหายใจ 2 ครั้ง ให้หน้าอกมีการยกตัวขึ้น (เนื่องจากภาวะหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตจากการจมน้ำ เกิดจากภาวะการขาดออกซิเจน ต่างจากภาวะหัวใจหยุดเต้นทั่วไป ซึ่งจะเริ่มช่วยเหลือโดยการกดหน้าอกก่อน)
*ไม่ทำการกระทุ้งท้อง หรือยกผู้บาดเจ็บคว่ำพาดบ่า เพื่อให้น้ำออกจากผู้บาดเจ็บ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้บาดเจ็บเพิ่ม และเสียเวลาในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นโดยไม่ได้ประโยชน์เพิ่มเติม

3. หลังจากช่วยหายใจ 2 ครั้ง แล้วผู้บาดเจ็บไม่รู้สึกตัว และไม่มีการหายใจเลย ให้เริ่มกดหน้าอกผู้บาดเจ็บทันทีตามขั้นตอนการกดหน้าอกสากล (ขั้นตอนการกดหน้าอกสากลสำหรับประชาชนทั่วไป ในประเทศไทยสามารถสมัครเรียนได้ทาง ThaiCPR.org ดำเนินการโดยคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์)

4. หากในบริเวณใกล้เคียง มีเครื่องช็อคไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติสำหรับสาธารณะ (Automated External Defibrillator หรือ AED) ให้รีบนำเครื่องมาใช้ทันที โดยมีสิ่งสำคัญคือให้ทำการเช็ดส่วนหน้าอกของผู้บาดเจ็บให้แห้งโดยเร็วก่อนการใช้เครื่อง AED

5. ทำการช่วยหายใจ การกดหน้าอก และการใช้ AED (ถ้ามี) ต่อเนื่อง จนกระทั่งความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินมาถึง

จุดสำคัญของการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการจมน้ำคือ การช่วยหายใจเป็นอันดับแรก เนื่องจากการช่วยหายใจจะเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้บาดเจ็บ