โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis)

ถือเป็นโรคภูมิแพ้ที่พบได้บ่อย โดยมักจะมีอาการแสดงต่าง ๆ คือ คัดจมูก คันจมูก/ตา จาม น้ำมูกไหล ในประเทศไทยพบได้ผู้ป่วยโรคนี้ โดยเฉพาะในเด็กมากถึง 50% และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

เสี่ยง

  1. พันธุกรรม
  2. สารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับเข้าร่างกาย (ฝุ่น ไรฝุ่น ละอองเกสร เชื้อรา ขนสัตว์ ฯลฯ)
  3. สารระคายเคืองต่าง ๆ (ควัน กลิ่นฉุน ฯลฯ)
  4. สุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง

อาการแสดง

คัดจมูก, จาม, น้ำมูกไหล, คันจมูก ตา หรือเพดานปาก นอกจากนั้นอาจมีอาการอื่น ๆ ได้เช่น เสียงเปลี่ยน จมูกรับกลิ่นไม่ได้ น้ำมูกไหลลงคอ แน่นหู
ปวดใบหน้า/ศีรษะ ผื่นขึ้นตามลำตัว

การวินิจฉัย

ส่วนมากได้จาก การซักประวัติ และตรวจร่างกาย นอกจากนั้นจะมีการตรวจพิเศษเพื่อยืนยันโรค เช่น การตรวจเลือดเพื่อปริมาณ IgE ที่จำเพาะต่อสารก่อภูมิแพ้ การตรวจโดยวิธีสะกิดผิวหนัง

ผลกระทบ

ถ้าโรคภูมิแพ้จมูกอักเสบนี้ไม่รับการรักษาจะทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ ตามมาได้ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคม
การใช้ชีวิตประจำวัน การหลับนอนที่ผิดปกติ หรือแม้กระทั่งมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น ริดสีดวงในโพรงจมูก โพรงไซนัสอักเสบ เจ็บคอ/ไอเรื้อรัง
นอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือถ้าผู้ป่วยมีภาวะหอบหืดอยู่อาจทำให้มีอาการกำเริบได้ง่ายขึ้น

วิธีการรักษา

  1. หลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้
  2. ใช้ยาบรรเทาอาการ
  3. วัคซีนภูมิแพ้ (Immunotherapy)
  4. การผ่าตัด

ถึงแม้ว่า โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้จะเป็นโรคที่ไม่หายขาด แต่อย่างไรก็ตามถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้อาการของโรคสงบ หรือแม้กระทั่งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในแต่ละวันได้ นอกจากนี้การได้รับการตรวจวินิจฉัยพิเศษเพิ่มเติม เกี่ยวกับสารก่อภูมิแพ้ ก็จะทำให้ทราบได้ว่าท่านแพ้สาร หรือสิ่งกระตุ้นอะไรบ้าง ซึ่งจะมีผลช่วยการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น